พบร่องรางปืนใหญ่!!!เป็นร่องที่ขุดเพื่อนำปืนใหญ่ไปปราบญวนสมัยรัชกาลที่3!!มีประวัติความเป็นมาของการต่อสู้เพื่อรักษาบ้านเมือง

พบร่องรางปืนใหญ่!!!เป็นร่องที่ขุดเพื่อนำปืนใหญ่ไปปราบญวนสมัยรัชกาลที่3!!มีประวัติความเป็นมาของการต่อสู้เพื่อรักษาบ้านเมือง นายสุมล เง็กลี้ นายก อบต.หนองคันทรง พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจร่องรางปืนใหญ่ที่บ้านเกาะปู ม.2ต.หนองคันทรงอ.เมือง จ.ตราด โดยนำผู้สื่อข่าวเดินเท้าเข้าไปในป่าชายเลนใกล้กระโจมไฟบ้านเกาะปู อยู่ด้านข้างสะพานท่าเทียบเรือบ้านเกาะปู บริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นลานหินผสมพื้นเลน ในป่าชายเลนร่มรื่น บริเวณปากแม่น้ำตราด เมื่อเดินเท้าเข้าไปถึงพบว่า มีร่องน้ำในพื้นหินที่ขุดเจาะลึกลงไปในหิน ความกว้าง30 เซ็นติเมตร ความลึก เกือบ 30เซ็นติเมตร ความยาวประมาณ 30 เมตรเศษ มีร่องรอยการทำความสะอาดไปไม่นานนักด้วยการนำเศษดินโคลนที่อยู่ในร่องรางปืนออกให้เห็นร่องรอยได้เด่นชัด

นายสุมล เง็กลี้ นายก อบต.หนองคันทรง บอกว่า ร่องรางปืนแห่งนี้ ถูกค้นพบโดยบรรพบุรุษของชาวตำบลหนองคันทรงเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา และได้ทำการสืบประวัติความเป็นมา จนทราบว่า ร่องรางปืนแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อายุนากว่า 190 ปีมาแล้วในปีพศ.2376ทรงให้พระยาบดินทร์เดชาและเจ้าพระยาพระคลัง นำกองทัพไปปราบญวนที่บ้านแหลมหิน อ.เมืองตราด เนื่องจากญวณจะแย่งชิงเขมรไปจากไทย เมื่อยกทัพมาถึงบ้านแหลมหิน จึงให้ทหารช่วยกันขุดหินเป็นร่องรางปืน เพื่อขนย้ายปืนใหญ่ขึ้นมาตั้งบนเนินดินที่สร้างเป็นค่ายทหารบริเวณกระโจมไฟเกาะปู เพื่อยิงต่อสู้กับญวณ และพร้อมจะลากปืนใหญ่ลงเรือเมื่อเพลี่ยงพล้ำได้ หลังเสร็จสิ้นสงครามแล้วถูกนำไปตั้งไว้ที่โรงเรียนวัดแหลมหิน และต่อมาได้ถูกย้ายไปตั้งไว้ที่หน้าอาคารเรียน โรงเรียนตราษตระการคุณมาจนถึงปัจจุบันนี้

นายสุมลบอกว่า การมาตั้งค่ายทหารและขุดรางร่องปืนใหญ่ที่บ้านเกาะปู เนื่องจากมีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล อยู่บริเวณปากแม่น้ำตราด และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขาบรรทัดได้ชัดเจนและอยู่ในวิถีกระสุนปืนใหญ่ ที่สามารถยิงไปได้ถึง ประกอบสมัยนั้นการยกทัพมาต่อสู้กับข้าศึก ต้องเดินทางมาทางเรือ จึงนำทัพมาตั้งต่อสู้กับข้าศึกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน อบต.หนองคันทรงได้บูรณะร่องรางปืนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นอกจากสอนยุวชนให้ได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติของท้องถิ่นและชาติบ้านเมืองแล้ว ยังให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยว ศึกษาเรียนรู้กันด้วย