ด่วน!!!…วงจรปิดเห็นเต็มๆ นี่ใช่มั๊ยนักฆ่า สาวอบต. ขอศาลออกหมายจับ เธอจะไม่ตายฟรี(มีคลิป)

จากเหตุสะเทือนขวัญ มือปืนจ่อยิง น.ส. วีรญาภา งามวิลัย หรือเปิ้ล หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผน อบต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จนเสียชีวิตขณะขับรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีเทา ทะเบียน 4 กอ-8489 กทม. โดยคนร้ายยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัดและลำตัวอีก 1 นัด เหตุเกิดบนถนนสายตัดใหม่วังน้อย-ธัญบุรี อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่มุ่งปมชู้สาว ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภ.1 พร้อมพ.ต.อ.อำนวยพันธุ์ นิลน้อย ผกก.สภ.คลองห้า เรียกประชุมชุดสืบสวน เพื่อติดตามจับคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารน.ส. วีรญาภา โดยเชิญนายไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์ อายุ 56 ปี กำนันตำบลป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เจ้าของสวนผลไม้ละไม และมี รีสอร์ตในจ.ระยอง ซึ่งเป็นสามีของน.ส.วีรญาภามาสอบปากคำด้วย

จากการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องแล้ว 5-6 ปาก หนึ่งในนั้นเป็นสามีใหม่ของผู้ตายชื่อนายไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์ โดยให้การว่าคบหากับผู้ตายมาได้ 4-5 เดือน เพราะเห็นว่าผู้ตายโสดและได้หย่าร้างกับสามีเก่าที่เป็นอดีตนายกอบต. ใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว โดย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนภรรยาจะ เสียชีวิตได้บอกว่าอยากมีลูก แต่มีไม่ได้ เพราะภรรยาผ่าตัดมดลูกเลยปรึกษากันว่าจะทำ อุ้มบุญเด็กแทน จากนั้นจึงพากันไปจดทะเบียนสมรส เพราะต้องเป็นหลักฐานในการรับรองบุตร แต่ถัดมาอีกวันก็ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนชนวนการสังหารครั้งนี้คาดว่าเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัว

ส่วนการสอบปากคำนางบานเย็น งามวิลัย อายุ 52 ปี แม่ ผู้ตาย ให้การว่าปกติลูกสาวมักโทร.มาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่อยู่กับสามีเก่าที่เป็นอดีตนายกอบต. ซึ่งเคยคบหากันก่อนหน้านี้ 4-5 ปีและได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ต่อมาได้หย่ากันเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะมาทราบภายหลังว่าอดีตนายกอบต. มีครอบครัวแล้ว นอกจากนี้แม่ของผู้ตาย ยังอ้างด้วยว่า อดีตนายกอบต.เป็นคนขี้หึงและอารมณ์รุนแรง ซึ่งระยะหลังก็ตามง้อขอคืนดีไม่เลิกรา ส่วนรถเก๋งคันเกิดเหตุ จากการสอบสวนทราบว่าคนตายเป็นคนผ่อนเอง แต่ตอนไปซื้อแม่ของผู้ตายไม่ทราบว่าเป็นเงินใคร เพราะลูกสาวไม่ได้บอก ส่วนศพน.ส. วีรญาภานั้น ญาติจะรับไปบำเพ็ญตามศาสนาที่วัดสระลำใย จ.สระบุรี

เบื้องต้นตำรวจยังมุ่งประเด็นชู้สาวและเรื่องส่วนตัว พร้อมส่งชุดสืบสวนไปยังบ้าน ผู้ต้องสงสัยตามที่พยานให้การทุกแห่งแล้ว ซึ่งเรื่องนี้มีบุคคลต้องสงสัยหลายคน เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่ผู้ตายเข้าไปมีความสนิทสนมด้วย โดยตำรวจได้เรียกมาสอบสวนทั้งหมด ส่วนช่วงเกิดเหตุยังพบรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับตามหลังมา โดยจากการตรวจสอบวงจรปิดขณะผู้ตายขับรถผ่านบริเวณถนนวังน้อย-ธัญบุรี ได้จับภาพชาย 2 คนเดินมาขึ้นรถคนตาย จากนั้นได้เดินลงจากรถไป แถมยังพบด้วยว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้ขับออกจากจุดเกิดเหตุในเวลานั้นด้วย และสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจขับรถตามมาแล้วมาขึ้นรถเก๋งของผู้ตาย โดยนั่งบริเวณเบาะหลังแล้วมีการพูดคุยตกลงปัญหาอะไรบางอย่าง กระทั่งเห็นใบทะเบียนสมรสวางอยู่ที่เบาะรถ จึงอาจมีปากเสียงกันและจ่อยิงผู้ตายจน เสียชีวิต โดยเลือดยังได้กระเด็นไปโดนทะเบียนสมรสด้วย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ จะตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด ทั้งกำนัน เพื่อนชายที่ทำเต็นท์รถมือสองและอดีตนายกอบต. พร้อมเชิญตัวมาสอบปากคำ หากพบว่าพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร จะออกหมายจับต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจสอบภายในรถเก๋งฮอนด้าคันเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยบริเวณเบาะหลังพบทะเบียนสมรสของนายไพโรจน์กับน.ส.วีรญาภาเปื้อนเลือดวางอยู่ โดยระบุวันที่จดทะเบียน 13 มี.ค.2560 เบื้องต้นคาดว่ามือปืนต้องเป็นคนรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังเดินทางไปตรวจสอบบ้านพักของอดีตนายกอบต. ที่เป็นอดีตสามีของน.ส.วีรญาภาด้วย แต่ไม่พบตัว ซึ่งอยู่ระหว่างประสานและเชิญตัวมาสอบปากคำ ด้านเจ้าหน้าที่นำคลิปกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ พบก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถเก๋งมาจอดข้างทาง จากนั้นมีรถปิกอัพ 4 ประตู สีดำมาจอดด้านหลังห่างประมาณ 10 เมตร สักพักมีผู้ชาย 2 คนเดินมาที่รถผู้ตาย คนแรกสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ ได้เดินไปเปิดเปิดกระโปรงท้ายรถดู จากนั้นเปิดประตูหน้าด้านซ้ายและเข้าไปนั่งในรถ ส่วนคนร้ายอีกคนสวมเสื้อดำ เดินไปเปิดประตูหลังด้านขวาและขึ้นไปนั่ง สักพักคนร้ายที่นั่งหลังได้เดินกลับไปที่รถปิกอัพ จังหวะนั้นเองในคลิปวงจรปิดจะเห็นว่ารถเก๋งของผู้ตายได้ถอยหลังตกขอบถนน ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่คนร้ายที่นั่งเบาะข้างลงมือยิงผู้ตายแล้ว จากนั้นคนร้ายได้เปิดประตูด้านหน้าซ้ายแล้วเดินกลับไปที่รถปิกอัพ ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะขับรถหลบหนีไป

พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วัชรศรี สุกัญญา ผกก.2 บก.ป. พร้อมฝ่ายสืบสวน เข้าประสานงานกับตำรวจพื้นที่ เพื่อร่วมคลี่คลายคดี ก่อนได้เบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไปทางอ.ท่าเรือ จ.พระนครศรี อยุธยา โดยพบหลักฐานว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค.ได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง และ เชื่อว่าน่าจะหลบหนีไปหาญาติที่จ.กาญจนบุรี เพื่อให้พาไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานเดินทางออกนอกประเทศ

ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีขณะนี้ได้ไล่ล่าติดตามผู้ต้องสงสัยอย่างกระชั้นชิด โดยล่าสุดตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ด่านเก็บเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เห็นรถปิกอัพอีซูซุ 4 ประตูสีดำ ซึ่งเป็นรถของคนร้ายที่ใช้ในวันลงมือสังหาร โดยกล้องวงจรปิดด่านเก็บเงินเห็นหน้าผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 45-50 ปี สวมแว่นตาสีดำ ผมสั้น ขับเข้ามาในด่านเก็บเงินเวลา 13.18 น.ของวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะมาถึงจุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 16.50 น. ซึ่งขณะนี้ทางชุดสืบสวนหลายชุดอยู่ระหว่างลงพื้นที่ไล่ล่าไปที่ตามบ้านญาติคนสนินในจ.ชลบุรี และที่จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งจ.กาญจนบุรี บ่ายวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสังหารน.ส.วีรญาภา