loading...

"อุเทน" มึน คสช.ใช้ ม.44 แค่สั่งคนคาดเข็มขัดนิรภัย สวดคนชงเรื่องทำให้อำนาจเสื่อม ติงอำนาจครอบจักรวาลกลับนำไปใช้แต่เรื่องจิ๊บจ๊อย ระบุแค่ ตร.ใช้ กม.อย่างเคร่งครัดก็แก้ปัญหาได้แล้ว แนะ "บิ๊กตู่" ใช้ ม.44 ให้เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ ฝากเตือนข้าราชการด้วยว่า ใจสะอาด มือสะอาด ชาติเจริญ... เมื่อวันที่ 27 มี.ค.60 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 14/2560 ที่ว่าด้วยมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการใช้เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์และรถโดยสารสาธารณะว่า คำสั่ง คสช.เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ออกมา เป็นเพียงการบรรเทาความสูญเสียกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ไม่สามารถที่จะป้องกันหรือลดการเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากปัจจุบันนอกจากเรื่องวินัยจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนนที่หย่อนยานอย่างมากแล้ว ยังรวมถึงบทการลงโทษที่ไม่รุนแรง การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย อย่างกรณีล่าสุดที่ลูกชายของนักแสดงชื่อดังขับรถด้วยความเร็วสูงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ก็ถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด แต่ไม่มีใครพูดถึงการนำรถป้ายแดงมาขับขี่ในยามวิกาลหรือเวลาค่ำคืน เท่าที่ทราบเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้แจ้งข้อหานี้แต่อย่างใด ดังนั้นการกวดขันวินัยจราจร โดยการใช้กฎหมายข้อบังคับที่มีอยู่จึงเพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายจะสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
loading...
"หาก คสช.อยากจะลดอุบัติเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่การทำใบขับขี่ต้องเข้มงวดสำหรับผู้ที่ขับรถเป็นจริงๆ และมีวินัย ไม่ใช่ออกง่ายจนมีแต่คนที่ขับรถได้เต็มท้องถนนแต่ขาดวินัยจราจร รวมไปถึงรถโดยสารสาธารณะทั้งหลายก็ควรมีมาตรการล็อกความเร็วรถห้ามวิ่งเร็วเกินไป โดยใส่กลไกควบคุมความเร็วไว้ที่รถแต่ละคัน เพื่อไม่ให้ทำความเร็วเกินกว่าที่กำหนดจริงๆ หรือไปจัดการกับพวกขับขี่รถ ที่มักชอบแซงซ้ายและพวกชอบขับขี่รถย้อนศร ซึ่งตัวอย่างเหล่านี้ถ้าแก้ได้น่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่าการไปบังคับให้คนรัดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งเป็นการลดหรือบรรเทาการสูญเสียมากกว่าลดอุบัติเหตุ" นายอุเทนกล่าว
นายอุเทน กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ คสช.ต้องใช้มาตรา 44 ซึ่งเป็นยาแรงกับการแก้ปัญหาจราจร เพราะหากกองบังคับการตำรวจจราจรและกรมขนส่งทางบกในฐานะผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเข้มงวด ก็สามารถลดปัญหาอุบัติเหตุได้แล้ว อำนาจที่ครอบจักรวาลของมาตรา 44 เมื่อใช้ก็ควรที่จะเกิดประโยชน์มากกว่านี้ อาทิ การปฏิรูปประเทศ หรือการปราบปรามการทุจริตที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแทบทุกหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะในระดับเจ้าหน้าที่ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในปัจจุบัน ซึ่งทางพรรคคนไทยได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตหาประโยชน์ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดรัฐบาล และ คสช.จึงมักใช้อำนาจผิดที่ผิดเวลาโดยตลอด จนอดสงสัยไม่ได้ว่าใครหรือหน่วยงานใดเป็นผู้เสนอเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ลงนาม
"ผมจำต้องยอมรับคำสั่งหรือกฎกติกา ข้อบังคับที่ คสช.และรัฐบาลกำหนด เพราะยังต้องการอาศัยอยู่ในประเทศนี้ แม้จะไม่เห็นด้วยในหลายๆ กรณี แต่ขออนุญาตเตือนว่า รัฐบาลจะทำอะไร ก็ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนด้วย แล้วก็อย่าบ้าจี้ไปตามเรื่องที่ชงขึ้นมา จนทำให้อำนาจของตัวเองเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลงเรื่อยๆ และผลที่สุดประชาชนจะเสื่อมความนิยมในตัวท่านนายกฯได้" นายอุเทนกล่าว
นายอุเทน ยังได้กล่าวไปถึงในส่วนของข้าราชการด้วยว่า ข้าราชการต้องทำตัวเป็นที่พึ่ง บำบัดทุกข์ บำรุงให้แก่ประชาชน แต่เรื่องร้องเรียนที่เข้ามาที่พรรค เกือบทั้งหมดสะท้อนว่าข้าราชการนอกจากไม่ทำหน้าที่ข้างต้นแล้ว ยังมีพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตคอร์รัปชัน เบียดบังผลประโยชน์ เอารัดเอาเปรียบประชาชน ซึ่งก็ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาลงเรื่อยๆ เช่นกัน จึงขอฝากคำพูดไปถึงเหล่าข้าราชการทั้งหลายด้วยว่า "ใจสะอาด มือสะอาด ชาติเจริญ".
loading...
ข้อมูลจาก : thairath.co.th/content/896865
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น