ย้อนคดีฉาววงการสงฆ์ ตร.จับสึก 2 สมภารวัดดัง ทั้งเสพยา-ซื้อบริการดช.

สดจากสนามข่าว กฤษณะ เชิญธงไชย หนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์ เรื่อง/ภาพ ข่าวร้อนแรงในวงการสงฆ์ขณะนี้คงหนีไม่พ้นความพยายามเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจและทหาร เพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังพยายามหลบเลี่ยงมานาน ซึ่งยังไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่าผลจะออกมาอย่างไร ท่ามกลางกระแสร้อนแรง มีเหตุการณ์เล็กๆ เรื่องการจับกุมพระสงฆ์จำนวน 2 รูป ที่แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าพระธัมมชโย แต่ก็เป็นถึงระดับเจ้าอาวาส รายแรกที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่เป็นนิจ จนชาวบ้านรอบๆ วัดทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ไหว ต้องแจ้งตำรวจ-ทหารลงมาจัดการ ขณะที่อีกรายก็ไม่หนีกัน ประพฤติผิดวินัยถึงขั้นปาราชิก คิดว่าไม่มีใครรู้เห็นเลย ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในวัดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 20 ก.พ. เมื่อ พ.อ.กุญช์ภัสร์ หาญสมบูรณ์ เสธ. บก.ควบคุม กกล.รส.มทบ.17 พร้อมด้วย พ.ต.รัชเดช น้าประเสริฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.รส.มทบ.17 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสุพรรณบุรี นำโดย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี จำนวน 20 นาย ร่วมกันบุกเข้าตรวจค้นวัดราษฎร์บูรณะ วัดดังในพื้นที่ ต.กฤษณา อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หลังเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีพระสงฆ์นอกรีตประพฤติมิชอบ ประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นพระ จนชาวบ้านเอือมระอา เพราะมีการเสพยาเสพติดภายในวัด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบทันที เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้าไป เคาะประตูกุฏิพระสงฆ์ทุกรูป รวมถึงเจ้าอาวาสวัดด้วย โดยได้เชิญพระทุกรูปมาตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏว่าในส่วนของพระลูกวัดผลออกมาสอบผ่านทุกรูป แต่พอมาถึงปัสสาวะของพระสมบูรณ์ พรหมพันธุ์ อายุ 44 ปี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์บูรณะ กลับมีผลเป็นสีม่วง

หลังทราบผลพระสมบูรณ์ถึงกับจะเป็นลม พยายามพูดบ่ายเบี่ยงปฏิเสธว่าไม่ได้เสพ แต่แบ่งรับแบ่งสู้ว่าเคยเสพจริงแต่นานหลายปีมาแล้ว พร้อมทั้งเรียกหายาดมกับยาลมจากพระลูกวัด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นภายในกุฏิเจ้าอาวาส ก็พบยาบ้าจำนวน 2 เม็ดซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งยังพบปืนยาวอัดลมพร้อมกล้องเล็งและท่อเก็บเสียงอีกหนึ่งกระบอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรมีอยู่ในวัดโดนสอบสวนเค้นหนักเข้า พร้อมจำนนด้วยหลักฐาน จนในที่สุดพระสมบูรณ์ก็ยอมรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยเพิ่งจะเสพยาบ้าไปเมื่อวานนี้เอง ส่วนอาวุธปืนยาวอัดลมเจ้าตัวรับว่าซื้อต่อจากเพื่อนมานานร่วม 5 ปีแล้ว ในราคา 6 พันบาท โดนสอบสวนเค้นหนักเข้า พร้อมจำนนด้วยหลักฐาน จนในที่สุดพระสมบูรณ์ก็ยอมรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยเพิ่งจะเสพยาบ้าไปเมื่อวานนี้เอง ส่วนอาวุธปืนยาวอัดลมเจ้าตัวรับว่าซื้อต่อจากเพื่อนมานานร่วม 5 ปีแล้ว ในราคา 6 พันบาท

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพบ พระสุนทร จึงแสดงหมายจับให้ดูพร้อมกับอ่านข้อกล่าวหา ระหว่างนั้นพระสุนทรเมื่อเห็นหมายจับถึงกับทรุดเป็นลมล้มทั้งยืน หงายหลังตึงต่อหน้าตำรวจ จึงได้ช่วยกันอุ้มร่างพระสุนทรมาปฐมพยาบาลในกุฏิ จนฟื้นขึ้นและได้อธิบายให้เข้าใจอีกครั้ง เมื่อพระสุนทรได้ฟังก็เข้าใจ แต่ก็กลับมาเป็นลมอีกรอบ ทางตำรวจจึงได้ปฐมพยาบาล จนฟื้นขึ้นและในที่สุดก็ยอมรับสารภาพและยอมให้ตำรวจนำตัวไปให้พระผู้ใหญ่สึกแต่โดยดี

พ.ต.อ.วรพงศ์เปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี 2559 ชุดคุ้มครองเด็กและเยาวชนของตำรวจเชียงใหม่ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายซู สัญชาติญี่ปุ่น ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากการสืบสวนขยายผลจากเด็กผู้เสียหายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กชายอายุไม่เกิน 15 ปี ได้ข้อมูลสำคัญว่าเคยไปขายบริการทางเพศกับพระสุนทร เจ้าอาวาสวัดท้าวคำวัง ชุดสืบสวนจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ กระทั่งเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสืบสวนจนพบอีกว่า พฤติการณ์ของพระสุนทรชอบพาเด็กชายอายุไม่เกิน 15 ปี มากระทำชำเราที่วัดเป็นประจำ จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลายคนอาจมองว่าทั้งสองเหตุการณ์ทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสียก็มองได้ แต่หากมองในมุมกลับกันก็เป็นการขจัดเหลือบ ริ้น ไร ที่อาศัยผ้าเหลืองบังหน้าเกาะกินอยู่ น่าจะช่วยให้วงการสงฆ์บริสุทธิ์ขึ้น

ข้อมูลจาก :khaosod.co.th/newspaper-column/news_241733